เชฟโรเลต เผยโฉม คอร์เวทท์ สติงเรย์ รุ่นใหม่ปี 2020
ข่าวทั้งหมด : ยานยนต์ / เชฟโรเลต เผยโฉม คอร์เวทท์ สติงเรย์ รุ่นใหม่ปี 2020
เชฟโรเลต
เผยโฉม คอร์เวทท์ สติงเรย์ รุ่นใหม่ปี 2020
เครื่องยนต์วางกลาง ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และมันคือคอร์เวทท์รุ่นเริ่มต้นที่เร็วและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทัสทิน
แคลิฟอร์เนีย – เชฟโรเลต
สานต่อตำนานความสำเร็จที่ยาวนานของคอร์เวทท์ ด้วยการ เผยโฉม คอร์เวทท์ สติงเรย์
รุ่นปี 2020 ครั้งแรกของคอร์เวทท์รุ่นโปรดักชั่นเครื่องยนต์วางกลาง สติงเรย์
รุ่นปี 2020 คือการสร้างจินตนาการใหม่เพื่อส่งมอบอีกระดับของสมรรถนะ เทคโนโลยี
ความประณีต และความหรูหราให้แก่ลูกค้าจากเครื่องยนต์วางหน้าสู่เครื่องยนต์วางกลาง
คอร์เวทท์แสดงถึงความเป็นสุดยอดนวัตกรรมและการผลักดันของจีเอ็มออกจากกรอบเดิมได้เสมอ รถสมรรถนะสูงที่มีเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้าได้ถึงขีดจำกัดของสมรรถนะแล้ว จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนารูปแบบใหม่” มาร์ก รอยส์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม กล่าว “คอร์เวทท์รุ่นใหม่ยังคงมีรูปลักษณ์และความรู้สึกที่ให้ความสะดวกสบายและความสนุกสนานสไตล์คอร์เวทท์ แต่มีการขับขี่ที่เหนือกว่ารถทุกรุ่นในประวัติศาสตร์ของคอร์เวทท์ ลูกค้าจะได้สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจจากการที่เราให้ความใส่ใจในรายละเอียดและสมรรถนะในทุกมิติ
เครื่องยนต์วางกลางทำให้สติงเรย์
รุ่นปี 2020 มีคุณสมบัติ ดังนี้ รถมีการกระจายน้ำหนักที่ดียิ่งขึ้น
โดยถ่ายเทน้ำหนักไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มสมรรถนะบนทางตรงและบนสนามแข่ง พร้อมตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นและให้การควบคุมที่แม่นยำด้วยตำแหน่งผู้ขับขี่ที่ใกล้กับเพลาล้อหน้ามากขึ้นจนเกือบจะอยู่บนล้อหน้า
นอกจากนั้น อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงที่เร็วที่สุดสำหรับคอร์เวทท์รุ่นเริ่มต้น – ประมาณ 3 วินาทีเมื่อมาพร้อมกับแพ็กเกจ Z51 โดยมีทัศนวิสัยเสมือนนั่งอยู่ในรถแข่งด้วยการปรับตำแหน่งฝากระโปรง มาตรวัดและพวงมาลัยต่ำลง ทำให้การมองเห็นผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความชัดเจน และพัฒนาจุดแข็งด้านการใช้งานของคอร์เวทท์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงสองตำแหน่ง ที่มีความจุรวม 12.6 ลูกบาศก์ฟุต เหมาะสำหรับกระเป๋าสัมภาระหรือถุงกอลฟ์ซัก 2 ใบ
การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งและอากาศยาน
รูปลักษณ์ภายนอกของสติงเรย์ รุ่นปี 2020 มีความโดดเด่นและล้ำสมัยด้วยเครื่องยนต์วางกลางที่เหมาะสมและสะดุดตา แต่ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์แบบคอร์เวทท์อย่างชัดเจน มีความปราดเปรียวและแข็งแกร่ง รูปทรงที่โฉบเฉี่ยวทรงพลังถ่ายทอดความรู้สึกแห่งการเคลื่อนไหวและพละกำลังจากทุกมุมมอง
“ในฐานะที่เป็นรถสมรรถนะสูงระดับตำนานของอเมริกา
การได้ออกแบบคอร์เวทท์ สติงเรย์ รุ่นใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นคือ โอกาสที่พิเศษอย่างยิ่งสำหรับทีมงาน
เป็นสิ่งที่นักออกแบบของเชฟโรเลตปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมมาตลอดกว่า 60 ปี” ไมค์ ซิมโค รองประธานฝ่ายออกแบบ เจนเนอรัล มอเตอร์ส กล่าว “นี่คือการเปิดตัวรถที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง
เราเชื่อมั่นว่าคอร์เวทท์สามารถแข่งขันกับรถที่ดีที่สุดในโลกได้”
สติงเรย์ รุ่นใหม่นี้ได้รับการสร้างสรรค์อย่างประณีตและใช้วัสดุพรีเมียมระดับซูเปอร์คาร์ รวมทั้งมีการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด การจัดวางเครื่องยนต์ในตำแหน่งใหม่เป็นจุดสำคัญที่ส่งผลการออกแบบรถรุ่นนี้อย่างแท้จริง นี่คือหัวใจของคอร์เวทท์ เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่เปรียบดังอัญมณีที่เปล่งประกายเจิดจรัสอยู่ในตู้โชว์ เราสามารถมองเห็นเครื่องยนต์ได้ผ่านกระจกหลังขนาดใหญ่ นอกจากนี้ความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ทำให้การวางสายไฟ ท่อ น็อต และสลักเกลียว เหมือนอย่างที่เราพบเห็นกันในดีไซน์ของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันยุคใหม่และที่สำหรับใช้งานบนถนนทั่วไป
ความโดดเด่นของการออกแบบ
อาทิ
ไฟหน้าดีไซน์เรียบง่ายและกลมกลืนไปกับไฟโปรเจคเตอร์ใหม่ล่าสุด
ซ่อนมือจับประตู
ฝากระโปรง และฝาท้ายเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อดีไซน์ของรถโดยรวม
ช่องรับอากาศด้านข้างขนาดใหญ่สำหรับการระบายอากาศเครื่องยนต์และเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
เสารูปทรง A สัมพันธ์กับความเร็วและเพิ่มทัศนวิสัย
กระจกหลังขนาดใหญ่โชว์เครื่องยนต์
พร้อมร่องระบายอากาศ 7 ช่อง
ปลายท่อไอเสีย 4
ชุดติดตั้งอยู่ด้านริมของตัวรถทั้งสองฝั่ง
ไฟท้ายแบบคู่ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบวิ่งตามทิศทางการเลี้ยว
มีต้นกำเนิดมาจากสนามแข่งและวิศวกรรมการบินอย่างแท้จริง
โครงสร้างรถที่เยื้องมาด้านหน้าได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินขับไล่ F22 และ F35
รวมถึงเครื่องบินรบยุคใหม่และรถแข่งฟอร์มูล่าวัน
เอกลักษณ์แบบคลาสสิกของคอร์เวทท์ยังนำมาประยุกต์ใช้กับสติงเรย์
อย่างรูปลักษณ์ด้านหน้า อันโดดเด่นที่สื่อถึงความเป็นรถสมรรถนะสูง
สันขอบแนวนอนแบบคลาสสิก ซุ้มล้อหน้าที่ดุดัน และไฟหน้าแบบคู่ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งคล้ายรุ่นก่อน
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย
ห้องโดยสารไม่เพียงถูกเลื่อนมาด้านหน้า
16.5 นิ้ว แต่ยังโอบล้อมตัวผู้ขับขี่
ส่งเสริมความรู้สึกแบบรถสมรรถนะสูงและแนวคิดอากาศยาน
ระบบควบคุมอากาศแนวตั้งและช่องแอร์ที่มีขนาดบางมากลดความสูงของแผงแดชบอร์ดหน้า
จึงทำให้ห้องโดยสารเตี้ยและให้ความรู้สึกกว้างขวาง
พวงมาลัยวงเล็กแบบสองก้านตัดตรงที่ขอบบนและขอบล่างรุ่นใหม่ไม่บดบังมุมมองต่อหน้าจอแสดงผลมาตรวัดขนาด
12 นิ้วที่ปรับเปลี่ยนได้
สติงเรย์
ปี 2020 มาพร้อมวัสดุห้องโดยสารระดับพรีเมียม สร้างสรรค์ด้วยคุณภาพและความพิถีพิถันขั้นสูง
วัสดุหนังที่ตัดเย็บด้วยมือ
พร้อมเดินตะเข็บด้ายแบบหนา
ใช้โลหะแท้
ฝาปิดลำโพงสแตนเลส
พร้อมระบบเครื่องเสียง Bose Performance Series
การตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับเบาะ
GT2 และ Competition Sport Seats
มีวัสดุอลูมิเนียมหรือคาร์บอนไฟเบอร์แท้ให้ลูกค้าเลือกตกแต่งคอนโซลและแผงประตู โดยลูกค้าสามารถสร้างสรรค์งานออกแบบของตนเอง ด้วยอ็อปชั่นที่มีให้เลือกสรรมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับคอร์เวทท์
สีตัวถัง 12 สี – แดง Torch Red, ขาว Arctic White, ดำ Black, เงิน Blade Silver Metallic, เทา Shadow Gray, เทา Ceramic Matrix Gray, แดง Long Beach Red, ฟ้า Elkhart Lake Blue และส้ม Sebring Orange — รวมถึง 3 สีใหม่ล่าสุด ฟ้า Rapid
Blue, บรอนซ์ Zeus Bronze และเหลือง Accelerate
Yellow
โทนสีห้องโดยสาร 6
รูปแบบ ดำ Jet Black, เทา Sky Cool Gray, แดง Adrenaline Red, น้ำตาล Natural/ Natural
Dipped, ฟ้า Two-Tone Blue และแดง Morello
Red
สีเข็มขัดนิรภัย 6 สี
ดำ Black, ฟ้า Blue, น้ำตาล
Natural, แดง Torch Red, เหลือง Yellow
และส้ม Orange
การเดินตะเข็บมีให้เลือก
2 สี เหลืองและแดง ขณะที่ห้องโดยสารสีดำมาตรฐานจะมาพร้อมการเดินตะเข็บสีเทา Sky
Cool Gray
เบาะนั่ง
3 รูปแบบ
GT1
สไตล์แบบสปอร์ตที่มุ่งเน้นความสะดวกสบายพร้อมมอบการโอบกระชับที่ดีสำหรับสถานการณ์การขับขี่ด้วยความเร็วสูง
โดดเด่นด้วยหนัง Mulan และมีอ็อปชั่นพยุงหลังสองทิศทางและการปรับปีกเบาะ
GT2
ครั้งแรกสำหรับคอร์เวทท์ที่เบาะประเภทนี้มีรูปลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งผสมผสานความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ทางไกลด้วยโฟมที่มีความหนาสองชั้น
ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์สลับหนัง Napa ปีกเบาะรองนั่งหุ้มหนัง
Mulan ด้านหลังเบาะพ่นสีดำสนิท
มีการพยุงหลังสองทิศทางและการปรับปีกเบาะ
รวมถึงการปรับอุณหภูมิและระบายอากาศ
Competition Sport ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่เอาจริงเอาจังกับการขับขี่ในสนามแข่ง เบาะประเภทนี้มีส่วนปีกเบาะรองนั่งที่โอบกระชับอย่างเต็มที่ หุ้มหนัง Napa เต็มรูปแบบและพนักพิงศีรษะตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงฟังก์ชั่นปรับอุณหภูมิและระบายอากาศ พร้อมด้วย ผ้าทอที่มีความทนทานสูงรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจมาจากเสื้อเกราะเคฟลาร์ สร้างมาให้เป็นซูเปอร์คาร์ขนานแท้สำหรับใช้งานได้ทุกวัน
โครงสร้างของคอร์เวทท์สร้างขึ้นล้อมรอบส่วนกลางของตัวรถซึ่งเปรียบดังกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและความแข็งแรงของการบิดเกลียวซึ่งรองรับการติดตั้งระบบกันสะเทือนที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการลดชิ้นส่วนตัวถังที่ไม่จำเป็น ลูกค้าคอร์เวทท์จะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการขับขี่ขั้นสูงสุดด้วยศักยภาพการยึดเกาะขณะขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยม รถรุ่นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของถนนอย่างเหนียวแน่นโดยมีแรงสั่นสะเทือนน้อยระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือการเดินทางไกล
“ภารกิจของเราคือการพัฒนารถสปอร์ตรูปแบบใหม่
ผสมผสานคุณสมบัติแห่งความสำเร็จของคอร์เวทท์เข้ากับสมรรถนะและประสบการณ์ขับขี่แบบรถซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลาง”
แทดจ์ จูเอชเตอร์ หัวหน้าทีมวิศวกรของคอร์เวทท์ กล่าว
แนวทางการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับส่วนกลางของตัวรถทำให้เกิดจุดเด่นหลายด้าน
ได้แก่
ความแข็งแกร่งเชิงบิดที่สูงขึ้น
พร้อมความรู้สึกเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถทั้งบนถนนและสนามแข่ง
ความสะดวกในการเข้าและออกห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถเครื่องยนต์วางกลาง
แตกต่างจากคู่แข่งเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีชายบันไดที่มีขนาดใหญ่เกินไปเพื่อรองรับน้ำหนักโครงสร้างและน้ำหนักตัวรถ
จึงทำให้เข้าและออกจากตัวรถได้ง่ายยิ่งขึ้น
เสถียรภาพที่เป็นเลิศด้วยจุดศูนย์ถ่วงตัวรถที่ต่ำและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม
ยังคงรักษาเอกลักษณ์แผงหลังคาถอดออกได้สไตล์คอร์เวทท์ที่หลายคนชื่นชอบ โดยสามารถถอดเก็บไว้ใต้ฝากระโปรงท้ายได้ง่ายดาย
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้าเพียงพอต่อการเก็บกระเป๋าคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและกระเป๋าสัมภาระใบเล็กขนาดมาตรฐานกับการถือขึ้นเครื่องบิน
(แครรี่ ออน)
ครั้งแรกสำหรับคอร์เวทท์ที่มีจำหน่ายทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา
การออกแบบอันชาญฉลาดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
ทั้งการขยายระยะการปรับเบาะเลื่อนไปด้านหลังได้อีก 1
นิ้วและเพิ่มองศาการปรับเอนอีกเกือบเท่าตัว
คอร์เวทท์ สติงเรย์
รุ่นใหม่สร้างด้วยกลยุทธ์การผสมผสานวัสดุอัจฉริยะ ส่งเสริมให้เกิดคุณสมบัติสำคัญ
อาทิ โครงสร้างหลักที่แข็งแกร่ง เหนียวแน่น และมีน้ำหนักเบาที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนอลูมิเนียมขึ้นรูปแรงดันสูง
6 ชิ้น เรียกว่า Bedford Six ซึ่งผลิตที่ศูนย์การผลิตจีเอ็ม
พาวเวอร์เทรนในเมืองเบดฟอร์ด รัฐอินเดียน่า ช่วยลดจำนวนข้อต่อในตัวรถ
จึงทำให้โครงสร้างมีความเหนียวแน่นมากขึ้นซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและการเข้าโค้งในสนามแข่ง
ลดน้ำหนักด้วยการใช้คานกันชนหลังแบบโค้งผลิตด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์
ห้องโดยสารด้านหน้าและหลัง
รวมถึงแดชบอร์ดหล่อขึ้นจากวัสดุ “ลอยตัว” ชนิดพิเศษที่ทำจากไฟเบอร์กลาสและเรซินเอกสิทธิ์เฉพาะซึ่งมีน้ำหนักเบาอย่างยิ่ง
วัสดุประเภทนี้เบามากจนสามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้
โดยนำมาผสมผสานกับไฟเบอร์กลาสและคาร์บอนไฟเบอร์ประเภทอื่นๆ เพื่อลดมวลน้ำหนัก
พร้อมกับทำให้เสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนลดลง
การควบคุม ดีเอ็นเอของการขับขี่ที่สนุกสนานในคอร์เวทท์
สติงเรย์ได้รับการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เหนือชั้นบนถนนทั่วไปและการควบคุมที่สมดุลในสนามแข่ง
“ด้วยการออกแบบระบบกันสะเทือนที่ซับซ้อน
เทคโนโลยียางที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ และความ
ใส่ใจในรายละเอียดทางโครงสร้างอย่างลึกซึ้ง
เราได้ยกระดับการขับขี่และการควบคุมให้สูงขึ้น” จูเอชเตอร์
กล่าว “ไม่มีคอร์เวทท์รุ่นอื่นใดที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย
คล่องตัว และมั่นคงได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่า
รุ่นใหม่นี้”
สติงเรย์ใหม่มาพร้อมโช๊คอัพสปริงที่สร้างบุคลิกการขับขี่และการควบคุมแบบใหม่ทั้งหมด
โครงสร้างเครื่องยนต์วางกลางมอบระบบบังคับเลี้ยวที่รวดเร็ว เฉียบคม และมั่นคง
ควบคู่กับระบบบังคับเลี้ยว
อิเลคโทรนิคทีได้รับการปรับปรุงใหม่ทำให้การสั่งการของผู้ขับขี่ได้รับการตอบสนองอย่างทันทีทันใด
ตำแหน่งการนั่งใหม่ทำให้จุดศูนย์ถ่วงตัวรถอยู่ใกล้กับสะโพกด้านในของผู้ขับขี่
ดังนั้นผู้ขับขี่
จึงเป็นศูนย์กลางของตัวรถขณะควบคุมทิศทาง
ตำแหน่งที่นั่งเช่นนี้ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกสัมผัสในการควบคุมและการตอบสนองของตัวรถไปอย่างสิ้นเชิง
การยกระดับการขับขี่และการควบคุมด้านอื่นๆ
ประกอบด้วย
ปรับปรุงอัตราทดพวงมาลัยจาก
16.25:1 เป็น 15.7:1
ระบบเบรก eBoost
รุ่นใหม่ที่แม่นยำมากขึ้นและปรับตั้งได้
ติดตั้งยางสมรรถนะสูงที่เหมาะกับสภาพถนนในทุกฤดูเป็นครั้งแรกในรถสปอร์ต ซึ่งรองรับการเข้าโค้งด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางเกือบ 1G
ช่วงล่างด้านหน้ายกตัวขึ้นได้ภายในเวลา
2.8 วินาทีเพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นบริเวณกันชนหน้าประมาณ 40 มม.
ป้องกันการกระแทกเนิน หลุม ทางขึ้นที่ลาดชัน และสิ่งกีดขวางอื่นๆ บนถนน
โดยระบบนี้ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 24
ไมล์ต่อชั่วโมงและปรับตั้งมาให้ทำงานโดยอัตโนมัติผ่านระบบ
จีพีเอสที่จดจำสิ่งกีดขวางได้สูงสุด 1,000 ตำแหน่ง
ระบบช่วยออกตัวทำงานได้ดีขึ้นด้วยการกระจายน้ำหนักไปด้านหลัง
ทำให้สติงเรย์รุ่นใหม่ออกตัวได้รวดเร็วยิ่งกว่าคอร์เวทท์ทุกรุ่นในประวัติศาสตร์
Z51
Performance Package เพียบพร้อมเทคโนโลยีใหม่มากมายสำหรับสติงเรย์
ปี 2020
• ช่วงล่างสมรรถนะสูงซึ่งสามารถปรับตั้งได้ด้วยมือ
• จานเบรกขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมโลโก้ Z51 บนคาลิปเปอร์เบรก
• ปรับปรุงการระบายอากาศ
• อัตราทดเพลาแบบจำเพาะ
• ช่องระบายอากาศสำหรับเบรกหน้า
• ท่อไอเสียสมรรถนะสูง
เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปอิเลคโทรนิคผนวกรวมอยู่ในชุดเพลาส่งกำลังซึ่งควบคุมแรงบิดระหว่างสองล้อหลัง
ช่วยรักษาเสถียรภาพได้อย่างยอดเยี่ยม
สปอยเลอร์หน้าและสปอยเลอร์หลังสองชิ้นแบบเปิดเพิ่มแรงกดรวมกันได้ทั้งหมด
400 ปอนด์ ทำให้มีการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น
ระบบ Magnetic
Ride Control 4.0 ซึ่งอ่านสภาพถนนได้ดีขึ้น
ส่งต่อข้อมูลที่แม่นยำผ่านไปยังเครื่องวัดความเร็วที่ติดตั้งกับช่วงล่าง
ช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบอิเลคโทคนิคต่อการควบคุมของผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นมากขึ้น
ผลลัพธ์คือคุณภาพการขับขี่ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน
เพิ่มเสถียรภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้นกับเทคโนโลยีควบคุมสมรรถนะการขับขี่ (Performance Traction Management)
อัญมณีกลางลำตัวรถ
หัวใจขับเคลื่อนของสติงเรย์
ปี 2020 คือเครื่องยนต์ Small Block V-8 LT2 ความจุ 6.2 ลิตร เจนเนอเรชั่นใหม่ของเชฟโรเลต ซึ่งเป็นขุมพลัง V-8 แบบไร้ระบบอัดอากาศรุ่นเดียวในกลุ่มเดียวกัน
มีพละกำลัง 495
แรงม้า (369 กิโลวัตต์) และแรงบิด 470 ฟุต-ปอนด์ (637 นิวตันเมตร)
เมื่อติดตั้งท่อไอเสียสมรรถนะสูง – ถือเป็นรถคอร์เวทท์รุ่นเริ่นต้นที่มีแรงม้าและแรงบิดสูงที่สุด
“ถึงแม้เครื่องยนต์จะติดตั้งอยู่ด้านหลังผู้ขับขี่
แต่ขุมพลัง LT2 ยังมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าอารมณ์แบบที่เราทุกคนคาดหวังจากคอร์เวทท์”
จอร์แดน ลี หัวหน้าทีมวิศวกรเครื่องยนต์ Small Block ระดับโกลเบิลของจีเอ็ม กล่าว “เครื่องยนต์ LT2 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบแรงบิดที่รอบต่ำได้อย่างดีเยี่ยม
และพละกำลังในรอบสูงที่ตอบสนองต่อคันเร่งได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจในทุกรอบเครื่องยนต์”
ตำแหน่งการติดตั้งเครื่องยนต์ที่ต่ำทำให้จุดศูนย์ถ่วงตัวรถต่ำ
ช่วยเพิ่มการควบคุมระดับสูงสุด
การปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดอาจอยู่ที่ระบบการไหลเวียนและการหล่อลืน
โดยถือเป็นครั้งแรกที่สติงเรย์
รุ่นเริ่มต้นใช้ระบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้งติดตั้งกับเครื่องยนต์ และปั๊มน้ำมันหล่อลื่น 3 ตัวเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ระหว่างการขับขี่อย่างดุดันในสนามแข่ง
น้ำมันหล่อลื่นจะคงปริมาณที่สูงเพื่อไม่ให้สมรรถนะการขับขี่ลดลง
ศักยภาพการรับแรงเหวี่ยงของสติงเรย์ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก ระบบหล่อลื่นแบบแห้งของเครื่องยนต์
LT2
ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อมอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เป็นเลิศระหว่างการเร่งที่มีแรงเหวี่ยงเกินกว่า
1G ในทุกทิศทาง
ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหลังเป็นกระจกน้ำหนักเบาที่มีความหนา
3.2 มม. เปิดโอกาสให้เจ้าของรถสามารถโชว์เครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่
ฝาครอบกระจกดังกล่าวมีร่องขอบด้านข้างที่ช่วยระบายความร้อนจากห้องเครื่องยนต์ LT2
ความโดดเด่นของเครื่องยนต์
ยังรวมถึงการติดตั้งเครื่องยนต์ที่มองเห็นได้ผ่านกระจกหลัง
เปรียบได้กับตู้โชว์อัญมณี
ทุกชิ้นส่วน
ไม่ว่าจะเป็นสายไฟของระบบไอเสีย ท่อทางเดินต่างๆ แนวสลักเกลียว ท่อน้ำยาหล่อเย็น
ท่อไอเสีย รวมถึงน็อตและสลักสกรูต่างๆ ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสวยงามเป็นสำคัญ
ทุกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้รับการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันเหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอก
กระทั่ง แผงกันความร้อนก็มีลวดลายด้วยเช่นกัน
เสื้อสูบและระบบระบายอากาศถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด
แกนกลางของเพลาข้อเหวี่ยงติดตั้ง
ในตำแหน่งใกล้กับพื้นต่ำลง
1 นิ้ว ซึ่งเชื่อมต่อกับชุดเพลาส่งกำลังเพื่อการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น
อ่างน้ำมันเครื่องที่เรียบง่ายซึ่งลดมวลน้ำหนัก
ตัวหล่อเย็นน้ำมันเครื่องมีความจุเพิ่มขึ้น
25 เปอร์เซ็นต์
ฝาครอบวาล์วสีแดงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การเปลี่ยนเกียร์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เครื่องยนต์ LT2 เจนเนอเรชั่นใหม่ประกบคู่กับระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดรุ่นแรกของเชฟโรเลต
มอบความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบในการเปลี่ยนเกียร์และการถ่ายทอดกำลังที่เป็นเลิศ
ระบบส่งกำลังชุดนี้ได้รับการออกแบบร่วมกับ TREMEC เพื่อคุณสมบัติที่ดีที่สุด
2 ด้าน
ทั้งสัมผัสจิตวิญญาณสุดเร้าใจแบบเกียร์ธรรมดาและความสะดวกสบายในการขับขี่ระดับพรีเมียมแบบเกียร์อัตโนมัติ
ฟีเจอร์ดับเบิลแพดเดิลแบบปลดคลัตช์ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ปลดการทำงานของคลัตช์ด้วยการรั้งแป้นแพดเดิลชิฟท์ค้างไว้เพื่อการควบคุมที่เหมือนเกียร์ธรรมดามากขึ้น
แพดเดิลชิฟท์ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกเกียร์ได้ตามต้องการ
“อัลกอริทึมของการเปลี่ยนเกียร์ถูกพัฒนาให้มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นพิเศษ
ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ว่ากำลังขับขี่ด้วยจิตวิญญาณแห่งความสนุกโดยแท้
ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบการขับขี่ใดก็ตาม
และจะคงตำแหน่งเกียร์ต่ำให้นานยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มการตอบสนองของคันเร่ง” จูเอชเตอร์ กล่าว
เครื่องยนต์ Small
Block V-8
รุ่นใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพการถ่ายทอดแรงบิดเพื่อใช้ประโยชน์จากความเร็วระดับเสี้ยววินาทีของเกียร์
DCT วิศวกรได้ปรับแต่งเกียร์ DCT โดยให้เกียร์
1 มีอัตราทดต่ำมากเพื่อให้ตัวรถพุ่งออกตัวได้อย่างรวดเร็วและมีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น
เกียร์ 2 ไปจนถึงเกียร์ 6
มีอัตราทดทำให้เครื่องยนต์รักษาพละกำลังเกือบจะอยู่ในระดับสูงสุด เกียร์ 7
และเกียร์ 8 มีอัตราทดสูง
ทำให้การขับขี่ทางไกลเป็นไปอย่างสะดวกสบายและง่ายดายโดยมีแรงเค้นทางกลไกต่ำและ
มันประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม
เกียร์ DCT
ทำงานร่วมกับระบบ Electronic Transmission Range Selector ด้วยการใช้ตัวเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้าจึงไม่มีอินเตอร์เฟซแสดงผลแบบกลไกระหว่างคันเกียร์และชุดเกียร์
ตัวเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้าของคอร์เวทท์ประกอบด้วยสลักแบบดึงสองตัวสำหรับเกียร์ถอยหลัง
(Reverse) และเดินหน้า (Drive) รวมถึงสวิทช์จอด
(Park) เกียร์ว่าง (Neutral) และเกียร์ต่ำ/ธรรมดา
(Low/Manual) ตัวเปลี่ยนเกียร์ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามสะดุดตามากขึ้นและมีขนาดเล็กกว่าตัวเปลี่ยนเกียร์มาตรฐาน
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพิ่มสมรรถนะและความสามารถในการใช้งาน
คอร์เวทท์รุ่นใหม่ เพิ่มรูปแบบการขับขี่จาก 4 รูปแบบการขับขี่เป็น 6 รูปแบบการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนประสบการณ์ขณะขับขี่ได้ตามความต้องการและตอบสนองการเดินทางทุกรูปแบบ
รูปแบบการขับขี่เดิมประกอบด้วย
Weather,
Tour, Sport และ Track และอีก 2
รูปแบบการขับขี่ใหม่ ได้แก่
MyMode รูปแบบการขับขี่ที่รองรับการปรับแต่งได้ตามสไตล์การขับขี่ที่ชื่นชอบ
และสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
Z mode รูปแบบการขับขี่ที่ตั้งตามชื่อแพ็กเกจสมรรถนะสูง
Z06 ZR1 และZ51
อันโด่งดัง
ซึ่งทำงานด้วยการกดสวิทช์
Z
บนพวงมาลัย
รูปแบบการขับขี่ประเภทนี้เป็นรูปแบบการขับขี่แบบใช้งานครั้งเดียวที่ยกระดับจากรูปแบบการขับขี่
MyMode ให้มีความก้าวล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น
ผู้ขับขี่สามารถปรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังได้อีกด้วย
สติงเรย์ รุ่นปี 2020
มีคุณสมบัติที่โดดเด่นจากการใช้แพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัลรุ่นใหม่ของจีเอ็ม
ซึ่งเป็นโครงสร้างอิเลคโทรนิคเต็มรูปแบบที่รองรับการริเริ่มใช้งานเทคโนโลยียุคใหม่ของบริษัทฯ
โครงสร้างนี้ลดจำนวนสายไฟพร้อมกับทำให้การถ่ายโอนสัญญาณระหว่างระบบต่างๆ
ในตัวรถมีความรวดเร็วมากขึ้น และสามารถติดตั้งหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้น
แพลทฟอร์มดังกล่าวยังทำให้ตัวรถมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่องผ่านการอัพเดทไร้สายและเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ระบบเครื่องเสียง Bose
รุ่นใหม่ 2 ระบบประกอบด้วยลำโพงพรีเมียม 10
ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และระบบ Bose Performance Series ลำโพง
14 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์เสริม
ฝาครอบลำโพงได้รับการติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของส่วนล่างประตูเพื่อความหรูหราและยังช่วยป้องกันความเสียหายจากเท้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ระบบ Performance
Data Recorder ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบบวิเคราะห์การขับขี่
ที่ล้ำสมัยถูกปรับปรุงใหม่ด้วยกล้องความละเอียดสูงและอินเตอร์เฟซรุ่นใหม่ในรถ
ลูกค้าสามารถบันทึกการขับขี่ทั้งในสนามแข่งและบนถนนทั่วไปในการเดินทางจากจุดเริ่มต้นถึงจุดหมาย
ระบบ PDR
สามารถปรับตั้งให้บันทึกได้โดยอัตโนมัติเหมือนกับกล้องติดรถที่เริ่มบันทึกทุกครั้งที่
คอร์เวทท์ เคลื่อนที่
หรือปรับตั้งให้เริ่มบันทึกเมื่ออยู่ในรูปแบบการขับขี่ Valet
เชฟโรเลต คอร์เวทท์
สติงเรย์ ปี 2020 ขึ้นสายการผลิตที่ศูนย์การผลิตโบว์ลิงกรีนของจีเอ็มในช่วงปลายปี
2562
ราคาจำหน่ายและข้อมูลเพิ่มเติมจะได้รับการประกาศอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงวันเปิดตัว
อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com
ขอขอบคุณ : เชฟโรเลต
แสดงความคิดเห็น
คำค้นหาทั่วไป
กีฬาแต้มเท่าผีไฮไลท์ พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกแมนเชสเตอร์ เอฟเวอร์ตันบาร์เซโลน่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษอังกฤษพรีเมียร์ลีกคูตี้ชูมาเน่น้องเมยโดนซ้อมแฉ “น้องเมย”เตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ มารีญาพันชีวิตสุดมันส์ วิ่งนักวิ่งไทย-เทศสิงห์เติมจี๊ด!ร่วมวิ่งแอดเวนเจอร์ ข่าวกีฬาย้อนหลังรอบโลกกีฬาก้าวสู่ปีที่ 7สุโขทัยมาราธอน 2017′วิ่งเพื่อมรดกโลกศึกวอลเลย์บอลปลื้มจิตร์-นุศราโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตกีฬาโปรอาร์มธงชัย ใจดี โชคชัยจีทีเอ็มมอเตอร์สปอร์ตไทยToyota Motorsportสายสปีดโคราชพิสูจน์ความเร็วซิ่งกระกาย สุดมันส์กลางเชียงใหม่Super Car GTMโตโยต้า ทีมไทยแลนด์เรซที่ 3 Division 1รถยนต์โตโยต้า86ศึก RAATศึกซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2017ซูเปอร์คาร์จีทีเอ็มสนามช้างไทยแลนด์ เรซซิ่งนักบิดมวยไชยาฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2017ถ่ายทอดสดฟุตบอลผลบอลสดเอเอฟซี ชิงชนะเลิศฟุตบอลสถิติเมืองทองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเจลีกคู่แข่ง ACLเจลีกคัพข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตารางคะแนนกีฬาที่น่าสนใจ